เปลี่ยนคาร์บูแล้วมีปัญหาครับ

เมื่อก่อนมีอาการสโลว์ไม่อยู่พอเร่งแล้ววอดดับจึงพาไปล้างคาร์บู ใช้ได้สักพัก ใช้ได้สักพักก็เป็นอีกเลยสั่งคาร์บูใหม่เป็นของเชียงกงมาใช้
แต่ไม่เหมือนลูกเดิมเป็นของตัวนอก(เห็นที่ร้านอะไหล่บอกนะครับ) ผลปรากฎว่า รอบเดินเบาดี แต่พอเร่งมาก มีเสียงปะทุและน้ำมันสำลักออกทางปากคาร์บู และพอดับเครื่องจะกระตุกซักพักจึงจะดับทำไงดีครับ

อาการนี้ไม่เกี่ยวกับคาร์บูฯ หรอกครับ จะเป็นที่ระบบไฟจุดระเบิด จุดช้าเกินไปหรือเรียกว่า"ไฟอ่อน"ครับ ให้ครวจสอบตามนี้ครับ
1. จานจ่ายได้ปรับไว้อย่างถูกต้องหรือไม่ : อันนี้ต้องใช้ "ไทมิ่งไลท์"ส่องดูมาร์คที่พูลเลย์เพลาข้อเหวี่ยงครับ หรือถ้จะลองทำดูแล้วทดลองเรื่อยๆ ก็ได้ครับ ขั้นตอนดังนี้
1.1 คลายโบลท์ยึดจานจ่าย เบอร์ 12 (2 ตัว) คลายแค่พอขยับจานจ่ายหมุนได้นะครับ
1.2 ติดเครื่องยนต์
1.3 ยืนด้านซ้ายของห้องเครื่อง จะต้องหมุนจานจ่าย"ตามเข็มนาฬิกา" เพื่อให้"ไฟแก่" ขณะที่หมุนจะสังเกตเห็นรอบเครื่องจะเร่งกว่าเดิม
1.4 ลองเร่งเครื่อง จนอาการที่ว่าหายไป อย่าหมุนมากกว่าจุดที่อาการหายนะครับ เพราะจะทำให้ไฟแก่เกินไป ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเครื่องยนต์
2. ถ้าทำตามข้อ 1 แล้ว ยังไม่หาย ลองถอดหัวเทียนมาตรวจดูครับ (แต่ส่วนมากจบที่ข้อ 1 แล้วแหละ)

ข้อควรระวัง
1. ความร้อนจากเครื่องยนต์ ควรสวมถุงมือผ้าครับ
2. อย่าจับบริเวณพัดลม เนื่องจากพัดลมจะทำงานเมื่ออุณหภูมิถึง

ข้อแนะนำเพิ่มเติม
1. จอดรถแล้วดึงเบรกมือ
2. ปฏิงานในบริเวณที่อากาศถ่ายเท

ตอนผมเรียน ตาม--->อ่อน ย้อน--->แก่ ไม่ใช่หรือครับ หรือต้องดูฝั่งเครื่องด้วยครับ


ผมว่าอาการน้ำมันท่วมอ่ะครับ น่าจะปรับที่นมหนู (ไม่รู้ถูกต้องหรือป่าว)

ตรวจเช็คกรองอากาศด้วยน๊ะครับ

ถูกต้องครับ "ตามอ่อน ย้อนแก่" เมื่อเทียบกับเข็มนาฬิกาครับ เมื่อคุณยืนด้านซ้ายของรถยนต์(แก้มซ้าย)คือด้านหลังของเครื่องยนต์ครับ แต่เมื่อคุณยืนด้านขวาของรถยนต์(แก้มขวา)คือด้านหน้าของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์ทั่วไปเพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนตามเข็มนาฬิการ เมื่อยืนอยู่ด้านหน้าเครื่องยนต์ครับ แต่เมื่อเรายืนอยู่ด้านหลังของเครื่องยนต์เพลาข้อเหวี่ยงจะหมุนทวนเข็มครับ ฉะนั้นเพลาลูกเบี้ยวก็หมุนทวนเข็มเช่นเดียวกันครับ

"ตามอ่อน ย้อนแก่" คือการหมุนจานจ่ายตาม หรือทวนทิศทางการหมุนจองเพลาจานจ่ายครับ ไม่เกี่ยวกับทิศทางของนาฬิกา

อาการนำมันท่วม เกิดขึ้นได้ยากครับ ถ้าไม่มีการปรับระดับน้ำมันในห้องลูกลอย และคาร์บูลูกที่เปลี่ยนอยู่ในสภาพที่จะต้องไม่เคยรื้อมา หากเคยรื้อมาความน่าเชื่อถืไม่ค่อยมีครับ และถ้าเคยถอดล้องปะเก็นก็มักจะขาด ซึ่งเมื่อเปลี่ยนไหม่เป็นของทั่วไปก็อย่าหวังจะเหมือนเดิมครับ : สภาพของหัวเทียนก็บ่งบอกการทำงานของเครื่องยนต์ได้นะครับ สีและกลิ่นไอเสียก็บอกได้เช่นกันครับ ฉะนั้นในบางอาการอาจต้องดูหลายสาเหตุก็ได้ครับ